🔼🔽🔼🔽🔼แบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์🔼🔽🔼🔽🔼
1.ชื่อโครงงาน : เทคโนโลยีอวกาศ
2.ประเภทโครงงาน : การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
3.ชื่อผู้จัดทำโครงงาน : นางสาวณัจยวา บุญพิศ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/9 เลขที่ 7
4.ครูที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ รุสฮาญา มูเก็ม
5.ระยะเวลาดำเนินงาน : ตั้งแต่วันที่ 4 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 ถึง วันที่ 30 เดือนธันวาคม พ.ศ.2560
6.แนวคิดที่มาและความสำคัญ :
ความหมายเทคโนโลยีอวกาศ
เทคโนโลยีอวกาศ หมายถึง
การนาความรู้ที่ได้จากการสำรวจสิ่งต่างๆที่อยู่นอกโลกของเราและสำรวจโลกของเรามาใช้ประโยชน์กับมนุษย์ โดยอาศัยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ
ซึ่งเกี่ยวกับทางด้านดาราศาสตร์ และวิศวกรรมควบคู่กัน
หรือจะให้ความหมายอีกด้านหนึ่งได้ว่า เทคโนโลยีอวกาศ หมายถึงการนา เทคโนโลยีที่ทา
ขึ้นเพื่อใช้สำรวจอวกาศโดยมีวัตถุประสงค์ของการใช้งานในแต่ละครั้งแตกต่างกันไปตามความต้องการของมนุษย์
เช่น โครงการอะพอลโล มีจุดประสงค์เพื่อสำรวจดวงจันทร์ โครงการสกายแล็บ
จุดประสงค์เพื่อค้นคว้าทดลองการอยู่ในอวกาศให้ด้านนานที่สุดศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ
การแพทย์ ฟิสิกส์ โครงการอะพอลโล-โซยูส มีจุดประสงค์เพื่อทดสอบระบบนัดพบ
และเชื่อมยานอวกาศ โครงการขนส่งอวกาศเพื่อใช้บรรทุกสิ่งของและมนุษย์ที่ไปอวกาศ
และเพื่อลดการใช้จ่ายในการใช้ยานอวกาศ
ความสำคัญเทคโนโลยีอวกาศ
มนุษย์ได้พยายามศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับจักรวาลและอวกาศโดยมีโครงการสำรวจอวกาศ
โครงการสำรวจอวกาศในหลายประเทศได้ศึกษาค้นคว้า และมีประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศมีประโยชน์มากมายในด้านต่าง ๆ เช่น การสื่อสาร
การคมนาคม อุตุนิยมวิทยา การสำรวจทรัพยาการโลก การเกษตร การแพทย์ และอื่น ๆ
7.วัตถุประสงค์ :
1-เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเว็บบล็อก
2-เพื่อเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
3-เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
4-เพื่อเป็นสื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศ 8.หลักการและทฤษฎี :
ความหมายของเทคโนโลยีอวกาศ
อวกาศ หมายถึง
อาณาบริวเวณอันกว้างใหญ่ที่อยู่เลยชั้นบรรยากาศของโลกออกไป ไม่สามารถระบุถึงขอบเขตได้อย่างชัดเจน โดยปกติอวกาศเป็นที่ว่างเปล่า มีความหนาแน่นน้อย การศึกษาความรู้เกี่ยวกับอวกาศจำเป็นต้องใช้ความรู้
เครื่องมือ และกลวิธีทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ดังนั้น เทคโนโลยีอวกาศ จึงหมายถึง ระเบียบการนำความรู้ เครื่องและวิธีการต่าง
ทางวิทยาศาสตร์มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการศึกษาทางด้านดาราศาสตร์ และอวกาศ ตลอดจนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับทรัพยากรธรรมชาติ และการดำรงชีวิตของมนุษย์ด้วย เช่น การนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้สำรวจและตรวจสอบสภาพอากาศของโลก เป็นต้น
ตัวอย่างเทคโนโลยีอวกาศ
จรวด เป็นเครื่องยนต์พลังสูงที่สามารถเพิ่มความเร็วจนสามารถส่งดาวเทียมหรือยานอวกาศออกไปโคจร
รอบโลก ได้ ถ้าความเร็วของจรวดไม่สูงมากพอหัวจรวดจะตกกลับมายังผิวโลกคล้าย ๆ
การเคลื่อนที่ของ ลูกกระสุนปืน
ดาวเทียม ดาวเทียมหมายถึงวัตถุที่มนุษย์ส่งขึ้นไปโคจรรอบโลก
แปลมาจากคำว่า Satellite ซึ่งปกติแปลว่าดาวบริวาร
ดาวเทียมดวงแรกที่ขึ้นไปโคจรรอบโลกคือสปุตนิค 1 ซึ่งเป็นดาวเทียมของประเทศสหภาพโซเวียตรัสเซีย
ส่งขึ้นไปเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2500 และดาวเทียมดวงแรกของสหรัฐอเมริกาคือเอ็กพลอเรอร์
1 ซึ่งขึ้นไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม
พ.ศ. 2501 ปัจจุบันมีดาวเทียมหลายประเภทและทำหน้าที่ต่าง ๆ
กัน เช่น ดาวเทียมที่ ใช้ประโยชน์ ในการติดต่อสื่อสารเรียกว่า ดาวเทียมสื่อสาร
ดาวเทียมที่ใช้สำรวจทรัพยากรโลกเรียกว่า ดาวเทียมสำรวจพิภพ
ดาวเทียมที่ถ่ายภาพและส่งข้อมูลเกี่ยวกับเมฆ ตลอดลมฟ้าอากาศ เรียกว่า
ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา นอกจากนี้ยังมี ดาวเทียมดาราศาสตร์
ที่ใช้สำรวจศึกษาดวงดาวอีกมากมาย
ยานอวกาศ หมายถึงยานที่ออกไปนอกโลก
โดยมีมนุษย์ขึ้นไปด้วยพร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์
สำหรับการสำรวจหรือไม่มีมนุษย์อวกาศขึ้นไป
แต่มีอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น จึงอาจแยกยานอวกาศออกเป็น 2 พวกคือ ยานอวกาศที่มีมนุษย์ขับคุม และยานอวกาศที่ไม่มีมนุษย์ขับคุมยานอวกาศของสหรัฐอเมริกาที่มีมนุษย์อวกาศขึ้นไปด้วยได้แก่
ยานอวกาศเมอร์คิวรี ส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปครั้งละ 1 คน
ยานอวกาศเจมินีส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปครั้งละ 2 คน
ยานอวกาศอะพอลโลส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปคราวละ 3 คน
ยานอวกาศอะพอลโล 11 เป็นยานอวกาศที่นำมนุษย์ไปลงบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่
22 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ยานขนส่งอวกาศสามารถนำมนุษย์อวกาศหลายคนและสัมภาระต่าง
ๆ รวมทั้งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ
แล้วนำนักบินอวกาศกลับสู่พื้นโลกได้คล้ายเครื่องร่อนยานอวกาศที่ไม่มีมนุษย์อวกาศขับคุมได้แก่ยานอวกาศที่ส่งไปสำรวจดาวดวงอื่น
เช่น ยานเซอร์เวเยอร์ ซึ่งไปลงดวงจันทร์ ยานไวกิงไปลงดาวอังคาร
ยานกาลิเลโอไปสำรวจดาวพฤหัสบดี ยานแมกเจลแลนสำรวจดาวศุกร์ ฯลฯ
สถานีอวกาศ หมายถึงสถานีหรือสิ่งก่อสร้างซึ่งเคลื่อนรอบโลก
เช่น สถานีอวกาศเมียร์ของรัสเซีย สถานีอวกาศฟรีดอมของสหรัฐอเมริกา
โดยความร่วมมือขององค์การอวกาศยุโรป ญี่ปุ่น แคนาดาและรัสเซียการออกไปนอกโลก
ความเร็วต่ำสุดที่จะพาดาวเทียมหรือยานอวกาศออกไปนอกโลกได้ต้องไม่ต่ำกว่า 7.91 กิโลเมตรต่อวินาที หรือ 28,476 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถ้าออกไปเร็วมากกว่านี้ยานจะออกไปไกลจากผิวโลกมากขึ้น เช่น ถ้าไปเร็วถึง 38,880
กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะไปอยู่สูงถึง 35,880 กิโลเมตร
และเคลื่อนรอบโลกรอบละ 24 ชั่วโมง
เร็วเท่ากับการหมุนรอบตัวเองของโลก ดาวเทียมที่อยู่ในวงจรเช่นนี้จะอยู่ค้างฟ้า ณ
ที่เดิมตลอด 24 ชั่วโมง
ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ
ปัจจุบันสิ่งประดิษฐ์ที่อาศัยความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอวกาศมีมากมายหลายชิ้น โดยเฉพาะการสร้างดาวเทียมประเภทต่าง ๆ
ขึ้นมาช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน ที่สำคัญ ได้แก่
การสื่อสาร ดาวเทียมสื่อสาร เป็นดาวเทียมที่ทำหน้าที่เป็นสถานีรับส่งคลื่นวิทยุเพื่อการสื่อสารและโทรคมนาคม ทั้งที่เป็นการสื่อสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่ใช้สำรับกิจการโทรศัพท์ โทรเลข โทรสาร รวมทั้งการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์และสัญญาณวิทยุ
การพยากรณ์อากาศ ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ทำหน้าที่ส่งสัญญาณภาพถ่ายทางอากาศที่ประกอบด้วยข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา เช่น จำนวนและชนิดของเมฆ ความแปรปรวนของอากาศ ความเร็วลม ความชื้น อุณหภูมิ ทำให้สามารถเตือนภัยที่เกิดจากธรรมชาติต่าง
ๆ ได้โดยเฉพาะการเกิดพายุ
การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ เป็นดาวเทียมที่ถูกใช้เป็นสถานีเคลื่อนที่สำรวจดูพื้นที่ผิวโลกและการเปลี่ยนแปลงต่าง
ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทราบข้อมูลทั้งทางด้านธรณีวิทยา นิเวศวิทยา เป็นประโยชน์ด้านการเกษตรและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ
ในห้วงอวกาศอันแสนกว้างใหญ่มีปรากฏการณ์ต่างๆ
เกิดขึ้นมากมาย มนุษย์บนโลกได้แต่เฝ้าสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ
เหล่านั้นจากท้องฟ้าสีคราม ทั้งสุริยุปราคา จันทรุปราคา หมู่ดาวมากมาย ผีพุ่งไต้
ดาวตก และอีกมากมายนับไม่ถ้วนชวนให้มนุษย์รุ่นต่อๆ มาสืบต่อการสังเกตการณ์บนฟากฟ้า
ค้นหาความลี้ลับเกี่ยวกับอวกาศ วัตถุต่างๆ
ที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าค้นหาความลี้ลับเกี่ยวกับอวกาศ วัตถุต่างๆ
ที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า
การศึกษาในภาควิชานี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า วิชาดาราศาสตร์
วิชานี้ถือกำเนิดเมื่อ 5,000 ปี มาแล้ว นักดาราศาสตร์รุ่นแรกเป็นชาวอียิปต์และชาวบาบิโลเนีย
นักดาราศาสตร์ คือ
นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาวัตถุในท้องฟ้า นักดาราศาสตร์ได้พยายามศึกษาท้องฟ้า
โดยสังเกตการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์และโลกในสมัยก่อนนักดาราศาสตร์มีความเชื่อต่างๆ
กัน บางกลุ่มก็เชื่อว่าโลกแบนราบ บางกลุ่มก็เชื่อว่า
โลกเป็นศูนย์กลางของเอกภพและมีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ
เคลื่อนที่รอบโลก
การศึกษาดาราศาสตร์
เริ่มต้นอย่างจริงจังในสมัยกรีกพโตเลมี
นักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของกรีก เชื่อว่าดาวเคราะห์ต่างๆ ดวงจันทร์
และดวงอาทิตย์โคจรรอบโลกเป็นวงกลม ความเชื่อนี้เป็นที่ยอมรับกันนานถึง 1,700 ปี
ต่อมา นิโคลาส คอปเปอร์นิคัส
นักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ได้เสนอความคิดว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ
แต่ความคิดของเขาเป็นที่ยอมรับหลังจากที่เขาตายไปแล้วเกือบ 100 ปี
ชีวิตในอวกาศ
อวกาศ คืออาณาเขตบริเวณอันกว้างใหญ่ไม่มีขอบเขตที่แน่นอน
ในอวกาศไม่มีน้ำ ไม่มีอากาศ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตใดๆ
ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในอวกาศได้
เมื่อมนุษย์อวกาศหรือนักบินอวกาศจะต้องสวมชุดอวกาศที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย์และฝุ่นละอองต่างๆ
ชุดอวกาศจะช่วยควบคุมความกดดันอากาศและช่วยจ่ายอากาศให้กับมนุษย์อวกาศมนุษย์อวกาศจะต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตและการปฏิบัติงานในยานอวกาศ
เนื่องจากในสถานีอวกาศจะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก การพักผ่อน นอนหลับ การกินอาหาร
หรือการขับถ่ายจึงต้องออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้สะดวกต่อมนุษย์อวกาศให้มากที่สุด
การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ
เมื่อมนุษย์สามารถเดินทางไปยังอวกาศที่อยู่แสนไกลได้
ทำให้เกิดการค้นพบมากมายในอวกาศ
มนุษย์จึงนำความรู้ที่ได้ค้นพบมาพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวกับอวกาศ
การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ทำให้เกิดการพัฒนาในด้านอื่นๆ อีก เช่น
การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การสื่อสาร การสำรวจสภาพอากาศ ด้านการแพทย์ และด้านอื่นๆ
อีกมากมาย การศึกษาด้านอวกาศจึงเจริญรุดหน้าต่อไป
เพื่อยังประโยชน์แก่มนุษยชาติอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ซึ่งเราสามารถลำดับความก้าวหน้าในการสำรวจอวกาศได้ดังนี้
-พ.ศ.1775 ชาวจีนได้พัฒนาจรวดดินปืน
-พ.ศ.2152 กาลิเลโอ นักดาราศาสตร์ชาวอิตาเลียนใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ประดิษฐ์ ขึ้น ศึกษาดาวเคราะห์และดาวต่างๆ
บนท้องฟ้า
-พ.ศ.2383 นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันถ่ายภาพดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรก
-พ.ศ.2446 พี่น้องตระกูลไรท์ นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันประดิษฐ์เครื่องบินเป็นครั้งแรก
-พ.ศ.2480 นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุเพื่อการวิจัยเป็นครั้งแรก
-พ.ศ.2487 กองทัพเยอรมันใช้จรวดในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
-พ.ศ.2500 สหภาพโซเวียตส่งยานสปุตนิก 1 ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกขึ้นไปโคจรในอวกาศ
-พ.ศ.2504 มนุษย์อวกาศโซเวียตชื่อ ยูริ กาการินขึ้นไปในอวกาศเป็นคนแรก
-พ.ศ.2512 ยานอวกาศอพอลโล 11 พร้อมมนุษย์อวกาศไปลงบนดวงจันทร์
-พ.ศ.2520 ยานอวกาศของสหรัฐอเมริกาไปสำรวจดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส
และดาวเนปจูน
-พ.ศ.2524 สหรัฐอเมริกาส่งยานขนส่งอวกาศลำแรกชื่อโคลัมเบียออกจากแหลม คาราเวอรัล รัฐฟลอริดา
-พ.ศ.2533 สหรัฐอเมริกาและองค์การอวกาศยุโรปส่งกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลขึ้นไปโคจรรอบโลก
-พ.ศ.2533 องค์การนาซาส่งยานอวกาศโซโหขององค์การฯ ยุโรปขึ้นไปสำรวจดวงอาทิตย์
-พ.ศ.2539 มาร์ส โกลบอล เซอร์เวเยอร์ และมาร์ส พาทไฟน์เดอร์
โครงการยานอวกาศสำรวจดาวอังคาร
-พ.ศ.2544 เกิดธุรกิจท่องเที่ยวในอวกาศโดยรัสเซียจำหน่ายตั๋วท่องเที่ยวอวกาศซึ่งมหา เศรษฐีชาวอเมริกันวัย 60 ปี ชื่อเอนิส
ติโต ขึ้นไป
9.ขั้นตอนการปฏิบัติ
วัน-เดือน-ปี
|
กิจกรรม
|
ผู้รับผิดชอบ
|
4/11/60
|
จัดการกับระบบG-mailของตัวเราเอง
|
นางสาวณัจยวา บุญพิศ
|
11/11/60
|
เริ่มสร้าง Web Blog : www.blogger.com
|
นางสาวณัจยวา
บุญพิศ
|
18/11/60
|
หาหัวข้อโครงงานตามตัวอย่างจากเว็บไซต์ต่างๆ
|
นางสาวณัจยวา บุญพิศ
|
25/11/60
|
เพิ่มเนื้อหาในโครงงานบนเว็บบล็อก
|
นางสาวณัจยวา
บุญพิศ
|
2/12/60
|
หาข้อมูลเพิ่มเติม
|
นางสาวณัจยวา บุญพิศ
|
9/12/60
|
หาข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติม
|
นางสาวณัจยวา
บุญพิศ
|
16/12/60
|
นำข้อมูลและภาพมาตัดต่อลงโครงงาน
|
นางสาวณัจยวา บุญพิศ
|
23/12/60
|
เนื้อหาในโครงงานเสร็จสมบูรณ์
|
นางสาวณัจยวา
บุญพิศ
|
30/12/60
|
เผยแพร่-ส่งงาน-ตรวจงาน
|
นางสาวณัจยวา บุญพิศ
|
10.ผลที่คาดว่าจะได้รับ :
1-ผู้สนใจมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศ
2-ได้รับความรู้เกี่ยวกับการสร้างสื่อวีดีทัศน์
11.เอกสารอ้างอิง : https://mikejakkrit668.wordpress.com
12.ภาพผนวก(ภาพและกิจกรรมต่างๆ) :
ดาวเทียม
PALAPAของอินโดนีเซีย
THAICOMของประเทศไทย
COMSTARของอเมริกา
🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀